วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การถ่ายภาพแนวท่องเที่ยว

การถ่ายภาพแนวท่องเที่ยวหรือจะเรียกว่า Travel shot, Street photography หรืออะไรก็ตาม คือสะพายกล้องท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆนั่นเอง สิ่งจำเป็นสำหรับถ่ายภาพในแนวนี้คือ

การถ่ายรูปงานแต่งงานเพิ่มเติม

เราไม่ใช่มือโปร.แต่เพื่อนฝูง คนรู้จักที่เขาต้องการให้คุณไปช่วยถ่ายภาพงานแต่งงานให้เขา ไม่ได้คิดอย่างนั้น เขาเห็นคุณมี DSLR มีอุปกรณ์อะไรต่ออะไรแบบนี้ ก็ต้องถ่ายภาพงานของเขาได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน ตากล้องมือใหม่ควรต้องมีการเตรียมพร้อมเพื่อความไม่ผิดพลาด เพราะงานแบบนี้ไม่มีรอบสอง มีเทคนิคเพิ่มเติมที่ต้องเรียนรู้และเตรียมตัว

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การจัดแสง ถ่ายภาพบุคคลด้วยแฟลชตัวเดียว

One Light Protraits บทความจากเว็บไซต์ digital-photography-school.com แสดงวิธีการจัดแสงการถ่ายภาพบุคคล ด้วยแฟลชเพียงตัวเดียว สำหรับผู้สนใจการใช้แฟลชเบื้องต้น

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Dragging Shutter Speed คือ

ทคนิคการถ่ายภาพด้วย Flash โดยผสมแสงแฟลชเข้ากับแสงธรรมชาติ แปลจากเว็บ http://neilvin.com เอามาคร่าวๆ
แบ่งออกเป็น Manual Flash กับ TTL Flash

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การถ่ายภาพดอกไม้

การถ่ายภาพดอกไม้ให้ดูเหมือนมืออาชีพ ที่เขานิยมถ่ายกัน ให้แตกต่างจากภาพแนว Snapshot ก็มีวิธีการ เทคนิคของมันอยู่

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Photo Tools for Android แอพสำหรับตากล้องมือใหม่


Link สำหรับ Download 
ติดตั้งได้สำหรับ Android vertion 1.6 ขึ้นไป คุณสมบัติ ก็ตามนี้ครับ
Tools available since v4.0
- DOF & Hyperfocal Distance Calculator
- Field Of View Calculator
- Exposure Reciprocation Calculator
- Flash Exposure Calculator
- Multiple Exposure Compensation
- Minimal Shutterspeed Calculator
- Bellows Extension Calculator
- Time Lapse Calculator
- Timer
- Stopwatch
- Light Meter (using Camera & EXIF)
- Sunny 16 (EV) Calculator
- Blue & Golden Hour Calculator
- Moon Phase & Exposure Calculator
- Location Info
- Weather Forecast
- Graycard
- Color Wheel
- Color Temperature Chart
- Image Histogram Viewer
- Image EXIF Reader
- Photo Enlargement Calculator
- Sharpening Radius Estimator
- Level Indicator
- Check Lists
- Note Pad
- Grid Overlay Camera
- Gallery for Inspiration
- Simple Touch Paint
- Web links

เหมาะสำหรับตากล้องมือใหม่อย่างเราๆมาก ส่วนของ iPhone ยังหาไม่เจอครับ

วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Tips การถ่ายภาพ Panorama

คือการถ่ายภาพหลายๆภาพแล้วนำมาต่อกันให้เป็นภาพเดียว โดยใช้ Software ทำให้เห็นภาพในมุมกว้าง ทำได้ทั้งแนวตั้ัง (Vertical) และแนวนอน (Horizontal)

  1. ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ปิดระบบกันสั่นของเลนส์ ใช้ (เลนส์ Zoom หรือ Tele 80 หรือ 100 ขึ้นไป)
  2. ปรับตั้งกล้องเป็นแนวตั้ง แม้ว่าต้องทำให้ถ่ายภาพหลายช้อตมากขึ้น แต่ช่วยลดการบิดของภาพได้ดีกว่าการตั้งกล้องในแนวนอน
  3. ปรับตั้ง White Balance ไปที่ Cloudy / ห้ามตั้งเป็น Auto White Balance
  4. จัดการวัดแสงให้เรียบร้อย จดค่าที่กล้องอ่านได้ ทั้ง F-Number และ Shutter speed (เซียนบางคนบอกว่าให้วัดแสงตรงบริเวณที่มืดที่สุดของแนวภาพที่เราจะถ่าย แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้น มองออกว่าตรงไหนมืดสุด ก็เอาตรงกลางๆแนวภาพไว้ก่อนดีกว่ามั้ง)
  5. เล็งโฟกัสภาพในตำแหน่งแรกที่เราจะถ่ายช้อตแรก แล้วปิดระบบ Auto Focus ไว้ให้เรียบร้อย
  6. เริ่มถ่ายภาพโดยให้แต่ละภาพทับซ้อนกันประมาณ 20% - 25% หรือ 1 ใน 4 ของภาพ ทำให้การเรียงภาพใน Photoshop ทำได้เนียนมากขึ้น
  7. ถ่ายภาพแรก - ภาพสุดท้าย ในเวลาอันรวดเร็วอย่างที่สุด ระวังอย่าให้ขาตั้งกล้องสั่นสะเทือนขณะแพนกล้องในแต่ละช้อต ใช้สายชัตเตอร์ หรือ Remote ก็ได้
อ้างอิง Scott Kelby

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคง่ายๆ การถ่ายรูปในงานแต่งงาน

  1. ถ่ายด้วย Format JPG ทำให้กล้องไม่ต้องทำงานหนักมาก ถ่ายภาพต่อไปได้รวดเร็ว  Memory Card เก็บไฟล์ได้เยอะกว่า Raw หากมีแค่อันเดียว และตั้ง White Balance ให้ถูกต้องเช่น ถ่ายด้วย Flash หรือ ถ่ายกลางแจ้ง ก็ตั้งที่ Day light (แห่ขันหมาก) สีที่ได้จะถูกต้อง ใกล้เคียงสีจริง ประหยัดเวลาในการทำงานหลังเสร็จงานแล้ว
  2. Flash ต้องมี Diffuser หากยิงแสงตรงไปยังเป้าหมาย เพื่อลดเงาแสงที่แข็งแบน จากการใช้แฟลช หรือใช้วิธีเงยแฟลชเฉียงขึ้น 45 องศา ให้แฟลชสะท้อนเพดาน(ไม่สูงจนเกินไปนะ) แล้วตกลงไปที่เป้าหมาย หรือจะสะท้อนกำแพงด้านข้างก็ได้
  3. Portrait ถ้าช่างภาพตัวสูงกว่าตัวแบบ ให้ย่อตัวลงหน่อย หรือลดขาตั้งกล้องลง ภาพดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
  4. ถ่าย Shot ที่เป็น Closeup เก็บมาบ้างเช่นแหวนแต่งงานในมือเจ้าสาว สมุดแสดงความยินดี เค้กแต่งงาน ฯลฯ จะดูโปรมากยิ่งขึ้น
  5. ถ่ายภาพหมู่ควรตั้ง F/11 เพื่อเก็บรายละเอียดให้ครบ หรือจะเล่น Background ให้ดีใช้ F/8 หรือ F/5.6
  6. ประกบเจ้าสาวตลอด ไปที่ไหน ตากล้องต้องไปที่นั่นเสมอ (เจ้าสาวคือเป้าหมายหลักของงานประเภทนี้) ยกเว้นห้องน้ำ
  7. อย่า Crop ภาพช่วงข้อศอก หัวเข่า
ตากล้องงานแต่งงานสนุกแต่เหนื่อยและไม่ได้สนุกกับเขาด้วย
รวบรวมจาก Scott kelby

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคเบื้องต้นในการถ่ายภาพให้คมชัด

ถ่ายภาพให้คมชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีเบื้องต้นที่นิยมใช้กันคือ
1. ใช้ขาตั้งกล้องเสมอ ปิดระบบกันสั่นที่เลนส์ด้วย
2. เลือก Aperture ที่ดีที่สุด คมชัดที่สุดของเลนส์รุ่นที่ใช้ เช่นเลนส์ f/2.8 รูรับแสงที่ชัดที่สุดของเลนส์ตัวนี้จะเป็น f/5.6 และ f/8.0 แต่ถ้าต้องการความชัดลึก ชัดตื้น ก็ไม่ต้องเลือกรูรับแสงตามนี้ก็ได้ Dept of field
3. ใช้สายชัตเตอร์ Remote หรือ ตั้งเวลาถ่ายเสมอ
4. ตั้ง Mirror lock up ล็อคกระจกสะท้อนภาพก่อนเปิดม่านชัตเตอร์ ป้องกันการสั่นไหว
5. ตั้งค่า ISO ต่ำสุด - 400 

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Gorillapod จากจีน!!

 ไปซื้อมาจาก Ebay ครับตัวละ 250 บาท เขาคุยว่ารับน้ำหนักได้ 2.5 Kg ใช้เวลาเดินทาง 1 อาทิตย์ มาจาก Hongkong ก็ได้ของครับ ผลิตในจีน เหมือนกับที่วางขายกันใน ห้างพันทิป ประตูน้ำนั่นแหละครับ คุณภาพก็สมราคาครับ บางลูกจะหลวมๆ บางลูกจะแข็งมากคละเคล้ากันไป ไม่ทราบว่าเป็นเทคนิคในการออกแบบหรือเปล่านะ ฮ่า..

Gorillapod ระดับโปรที่นิยมกันคงจะเป็น Joby ครับ ราคาจะสูงกว่านี้ รวมค่าขนส่งอีกเป็นพัน มีหลายรุ่นให้เลือก

วันก่อนไปเดินที่พันทิป ประตูน้ำ เห็นมีแบบใหม่มาวางจำหน่าย จะไม่เป็นลูกๆแบบนี้ แต่ข้อเป็นปล้องเหมือนตะขาบหุ่นยนต์ ลองซื้อหามาใช้กันดูครับ

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคเบื้องต้นในการ Isolating วัตถุ

การถ่ายภาพ Stock สิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึี่งคือการทำ Isolate คือภาพวัตถุที่มีด้านหลังเป็นสีขาวๆ ไปเจอบทความนี้มาจาก ShutterStock ครับ 

ขั้นแรก เตรียมการในขั้นตอนการถ่ายทำภาพเลย
การใช้ Background ในการถ่ายภาพ ต้องเป็นสีขาวไว้ก่อนเพื่อให้ง่ายในการตัดต่อภาพในขั้นตอนต่อไป
ใช้ไฟส่องเยอะๆ Tungsten หลอดเกลียวอะไรพวกนี้ครับ ส่องผ่านกระดาษไขเพื่อให้เงานุ่มนวล พวก Light Tent ที่เขาใช้ถ่ายสินค้าขายของใน Ebay ก็ได้ครับ
ใช้ขาตั้งกล้องที่ดี ใช้ Remote หรือตั้งเวลาในการถ่ายภาพ เพื่อไม่ให้กล้องสั่นไหวขณะมือเราไปกด Shutter ครับ (ระดับเซียนเขาจะใช้ Function Mirror LockUP ด้วย เพื่อไม่ให้กล้องสั่นขณะกระจกสะท้อนภาพกระดกขึ้น) พิถีพิถันกันสุดขีดครับ ถ้าใช้ Shutter Speed ช้ากว่า 1/60 เขาแนะนำให้ใช้ขาตั้งกล้องครับ
โฟกัสวัตถุให้ถูกต้อง ครอบคลุมวัตถุที่จะถ่ายทั้งหมด อาจต้องใช้ F number สูงๆ
ตั้ง ISO ให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เกิด Noise ครับ
ขั้นตอนที่ 2 Editing
เปิดภาพใน Photoshop ไปที่ Image > Adjustments > Levels ลาก สไลด์ลูกศรสีขาว(ด้านขวาสุด) ไปทางซ้าย ระวังอย่าให้ภาพ Over
Create New Layer > เลือก Brush Tool ดูภาพในขนาด 100% (ดับเบิ้ลคลิกที่ รูปแว่นขยาย) ตั้งสี Brush ให้เป็นสีขาว 100% #FFFFFF ตั้ง Hardness 95% ระบายทับส่วนที่ไม่ต้องการออกให้เป็นสีขาวทั้งหมด ปรับขนาดแปรงด้วยการกดปุ่ม [ หรือ ]
หรือจะใช้ Dodge Tool ก็ได้

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

กล้อง Full-Frame กับ Crop Sensor

กล้องราคาแพงๆทั้งหลาย เช่น Canon 5D MarkII หรือ Nikon D3S พวกนี้จะเป็น Full Frame คือมี Sensor รับแสงที่จะผลิตเป็นเม็ด Pixel เท่ากับ 35 mm เท่ากับมาตรฐานกล้องฟิลม์ในอดีต

 ตัวอย่าง เอามาจาก wiki pedia
ภาพแสดงการเปรียบเทียบขนาดของ Sensor ในกล้องยี่ห้อต่างๆ โดยกล้องที่มี Sensor ขนาดเล็กกว่า full frame จะมีชื่อเรียกต่างๆกันไป บางครั้งก็เรียกว่ากล้องตัวคูณ บางคนก็เรียกว่า Crop Sensor แต่ควรเรียกเป็น APS-C มากกว่า ดูตารางขนาด Sensor รุ่นต่างๆของ Canon 

ข้อได้เปรียบของ Full frame 
  1. ในสภาพที่แสงน้อย กล้อง Full frame จะมี Noise น้อยกว่ากล้อง Crop sensor
  2. ชัดลึก-ชัดตื้น depth of field กล้อง full frame จะทำชัดตื้นได้ดีกว่า
  3. กล้อง full frame ช่องมองภาพ Viewfinder จะสว่างกว่า เพราะเลนส์มีขนาดใหญ่กว่า
  4. กล้อง full frame ทำ body ดีกว่ากล้อง Crop sensor
  5. เมื่อคุณใช้ Wide lens หรือ Zoom Lensจะได้ภาพตาม spec เลนส์ทุกประการ แต่ถ้าเป็นกล้องตัวคูณภาพที่ได้จะเปลี่ยนไปเช่นใช้ Wide Lens 10 mm จะเหมือนคุณถ่ายด้วย Lens 16 mm หรือใช้ Zoom Lens 200 mm จะเหมือนคุณถ่ายด้วย Lens 320 mm

เอาไว้เป็นข้อมูล ถ้าจะเลือกซื้อกล้องคราวหน้า กล้องถูกแต่เลนส์แพง กล้องแพงกับเลนส์ถูก ระวังจะเจอกล้องแพง เลนส์แพง แต่ไม่แมทช์กันฝรั่งบ่นๆกันก็มี

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

การอ่าน Histogram เบื้องต้น

Histogram กับกล้อง Digital เป็นของคู่กัน ตากล้องมือใหม่อย่างเราต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร :)

จากภาพตัวอย่าง (เอามาจาก http://makeuseof.com) ถ้าเราวัดแสงที่ตัวอาคาร ท้องฟ้าจะเกิดอาการ Overexpose สว่างจ้าจนมองรายละเอียดไม่ได้ เส้นกราฟใน Histogram จะเทไปทางด้านขวามือจนล้น

แต่ถ้าเป็นดังรูปนี้ เส้นกราฟจะเทไปทางด้านซ้ายมือจนล้นเต็มก็จะ Underexpose


รูปนี้ Histogram จะไม่เทล้นไปด้านใดด้านหนึ่ง จึงจะถือว่าสมบูรณ์ ถูกต้อง ได้รายละเอียดครบเท่าที่จะเก็บได้ ทั้งในที่สว่างและที่มืด แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไป ต้องขึ้นอยู่กับภาพด้วยว่ามีลักษณะอย่างไร และไม่แน่เสมอไปว่ากราฟจะออกมาในรูปแบบนี้ทั้งหมด

จากรูปแรกเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้สมดุลย์กันทั้งภาพ เพราะถ้าเราลองวัดแสงที่ท้ืองฟ้า ตัวอาคารก็จะมืด ขาดรายละเอียดไป แต่ได้ท้องฟ้าสวยงามอย่างที่เราต้องการ ดั้งนั้นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วมาปรับแก้เอาในโปรแกรมทีหลัง หรือจะใช้วิธีถ่ายซ้ำกันหลายๆภาพ เช่นวัดแสงที่ท้องฟ้ารูปนึง วัดแสงที่ตัวอาคารรูปนึง วัดแสงที่ถนนรูปนึงแล้วเอามาซ้อนให้เป็นภาพเดียวกันด้วยวิธี HDR



บางที Histogram อาจจะ Clip คือล้นเกินขอบ Histogram ไปบ้างอย่างรูปนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าภาพโดยรวมออกมาดูดีเป็นใช้ได้ เช่นจากรูป ท้องฟ้าอาจจะมีสว่างไปนิด หรือ ดอกไม้อาจจะมีบางส่วนมืดไปบ้าง


หรือภาพนี้แสงออกมาพอดีไม่มีล้นเกินทั้งซ้ายและขวา กราฟไม่ได้จับกลุ่มกันอยู่ตรงกลาง เป็นรูประฆังคว่ำ แต่กระจายตัวเต็มพื้นที่ก็ถือว่าใช้ได้ และแสดงว่าภาพนี้ Contrast จัด

สรุปคือว่าการดู Histogram ไม่ใช่แปลว่าจะได้ภาพสมบูรณ์แบบ 100% แต่ก็ช่วยเป็นไกด์นำทางให้เราได้ หรือในที่ๆมีแสงแดดจัดๆ เรามองภาพในมอนิเตอร์ไม่ชัดเจน ก็ใช้ Histogram ดูพอเป็นสังเขปได้

Thank you http://www.makeuseof.com




วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

การวัดแสงขั้นพื้นฐาน

การวัดแสงกับการโฟกัส คนละเรื่องกัน ปกติเมื่อยกกล้องขึ้นเล็งไปยังวัตถุที่จะถ่ายภาพ กล้องจับโฟกัสได้ตรงจุดใด กล้องก็จะคำนวนค่าแสงตรงจุดนั้นออกมาให้พอดีที่สุด เมื่อมองผ่านช่องมองภาพ ตรงกลางกลมๆนั่นคือบริเวณที่กล้องมันคำนวนหาค่าแสงออกมาเป็น F เท่าไหร่ S เท่าไหร่!!!

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การถ่ายภาพ Low Key, High Key แบบใช้แฟลช

Low Key, High Key ไปค้นดูพบว่าเรื่องยาวมากเอาง่ายๆ คือ  
ภาพ Low Key คือ ตัววัตถุโดดเด่น ฉากหลังมืดๆ ถ้าใช้แฟลชจะง่ายมาก ตัวอย่างวีดีโอนี้ ตั้งรูรับแสงให้ Under สุดๆจนภาพมืด แล้วเอาแฟลชจ่อที่ตัวแบบ กดแช้ตเดียวจบ ฉากหลังที่รกรุงรัง สกปรกหายไปกับความมืด


ภาพ High Key คือตัววัตถุโดดเด่น ฉากหลังสว่างจ้า วิธีนี้ใช้แฟลช 2 ตัว ตัวหนึ่งยิงไปที่ฉากหลัง อีกตัวใช้สะท้อนร่มไปที่ตัวแบบ
  • f5.6
  • 1/250 (NIkon's Sync Speed)
  • ISO200
ที่มา dombowerphoto.blogspot.com

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แฟลชไม่มี High Speed Sync ทำไงดี

นักนิยมแฟลชราคาถูกอย่างเรา เมื่อเจอปัญหา แฟลชที่ซื้อมาไม่มี High Speed Sync จะทำอย่างไรดี?
ตัวอย่าง : ช่างภาพมืออาชีพที่ถ่ายภาพบุคคลกลางแจ้ง แดดแรงๆ และต้องการใช้แฟลชลบเงาบริเวณใบหน้า หรือต้องการถ่ายภาพย้อนแสง เช่นภาพตัวอย่างนี้
ภาพจาก davidtejada.blogspot.com
เมื่อต้องถ่ายภาพแบบนี้กลางแจ้งแดดแรงๆ ต้องการให้ให้ฉากหลังเบลอๆ ก็ต้องเปิดหน้ากล้องให้กว้างเข้าไว้ f2.8 หรือกว้างกว่านั้น และเมื่อใช้แฟลชลบเงา Shutter Speed ก็ต้องเกินความเร็ว Sync Speed ของกล้องซึ่งปกติจะอยู่ที่ 1/200 หรือ 1/250

ถ้าเราตั้ง Shutter Speed เกิน 1/200 หรือ 1/250 (แล้วแต่ Spec กล้อง) จะเกิดเงาดำจากแผ่นม่าน Shutter ทางแก้คือใช้ แฟลชที่มี High Speed Sync ทำให้สามารถเร่ง Shutter Speed สูงขึ้นตามต้องการได้ แต่ถ้าแฟลชราคาถูกของเราไม่มี High Speed Sync ทางออกคือเราใช้ ND Filter ลดปริมาณแสงลง
1/250 @ f4 @ 200 ISO ND8
เปรียบเทียบภาพที่ได้ใช้ ND Filter กับที่ใช้ High Speed Sync ครับ
1/2000 @ f4 @ 200 ISO High Speed Sync
ที่มาของภาพและบทความจาก neilvn.com

Strobist คืออะไร

Strobist เจอตอนแรกก็งงอยู่เหมือนกัน ตามประสาตากล้องมือใหม่ ต้องไปค้นดูพบว่า น่าจะหมายถึง "นักเล่นแสงแฟลช" อะไรทำนองนั้น จากที่ไล่ตามดูใน Youtube และ Google น่าจะเรียกว่า "พวกบ้าแฟลช" มากกว่า :)
  • ไม่ว่าจะเป็น InDoor หรือ OutDoor ได้ทั้งนั้น
  • Landscape, Portrait, Abstract etc. ไม่จำกัด
 เมื่อก่อนก็ไม่ได้สนใจแฟลชเท่าใดนัก เพราะคิดว่ามันเป็นอุปกรณ์สำหรับตากล้องที่ต้องรับงานถ่ายภาพประเภท รับปริญญา งานแต่ง งานศพ งานบวช ฯลฯ เรามันมือสมัครเล่นก็ไม่รู้จะสนใจไปทำไม แต่เมื่อเจอภาพเหล่านี้


ทำเอางงไปพักใหญ่ สามารถค้นหาเพิ่มเติมภาพเหล่านี้ได้ด้วยการเข้าไปที่ flickr.com แล้ว Search คำว่า Strobist จะได้ภาพตัวอย่างที่น่าสนใจมากเลย

จากการศึกษาพบว่า อุปรณ์สำคัญที่จะต้องมี
Flash อย่างน้อย 2 ตัว ไม่รวมที่ติดมาหัวกล้อง ควรเป็นรุ่นใหญ่ที่สุดเพราะไม่งั้นจะสู้แดดไม่ไหว กรณีที่ถ่ายกลางแจ้ง ที่นิยมมากๆเป็นของจีน (ราคาถูกมากๆ) ควรเป็น Yongnuo Yn-565 หรือ 560 ถ้าทุนน้อยก็ลดขนาดลงไป ราคามีให้เลือกตั้งแต่ 2,500 - 4.500 บาท เลือกรุ่นให้ถูกต้องกับกล้องของเรา (Ebay)






 
Light Stand


ขาตั้งแฟลช พร้อมขาเสียบแฟลช (Light Stand) ในรูปเป็นเฉพาะขาตั้งเท่านั้น จะมีขาเสียบแฟลชแยกขายต่างหาก ขาเสียบจะมีรูสำหรับเอาไว้เสียบร่มสะท้อนแสงด้วย หรือจะซื้อชุด Softbox พร้อมขามาด้วยก็ได้ แล้วแต่ชอบ ราคาชุดนี้ก็ 1,xxx ขึ้นไป (ความสูง 200 cm กำลังสวย)

Wireless Flash Trigger แนะนำเป็น Yongnuo เพราะถูกมาก มีให้เลือกหลายรุ่นแล้วแต่จะใช้กล้องยี่ห้อใด ควรเลือกให้ถูกต้องไม่งั้นปวดหัว ไปหาดูใน Ebay คู่ละ 1,000 บาทเท่านั้น จะซื้อกี่คู่ก็แล้วแต่จำนวนแฟลชที่ใช้ เอาไว้ติดที่ตัวกล้อง 1 ตัว ค่อยสั่งงาน และที่แฟลชแต่ละตัวคอยรับสัญญาน










เบ็ดเสร็จไม่เกิน 15,000 เบื้องต้นก็มีเพียงเท่านี้ สำหรับมือใหม่อย่างเรา