วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

การวัดแสงขั้นพื้นฐาน

การวัดแสงกับการโฟกัส คนละเรื่องกัน ปกติเมื่อยกกล้องขึ้นเล็งไปยังวัตถุที่จะถ่ายภาพ กล้องจับโฟกัสได้ตรงจุดใด กล้องก็จะคำนวนค่าแสงตรงจุดนั้นออกมาให้พอดีที่สุด เมื่อมองผ่านช่องมองภาพ ตรงกลางกลมๆนั่นคือบริเวณที่กล้องมันคำนวนหาค่าแสงออกมาเป็น F เท่าไหร่ S เท่าไหร่!!!


แต่มันจะคำนวนออกไปเป็นวงกว้างเท่าใด หรือจะเป็นแบบเฉลี่ยเท่ากันทั้งภาพก็สุดแท้แต่ว่าเราจะเลือก วิธีวัดแสงแบบใด ระดับเซียนเขาวัดแสงกันเป็นจุด (Spot) ซึ่งยากมาก ระดับอย่างเราๆต้องเลือกเป็น Evaluation metering จะได้ไม่พลาดเป้า แต่ถ้าอยากจะลองแบบอื่นก็ไปเปิดคู่มือเอาเองว่า มันคำนวนอย่างไร

http://www.weatherscapes.com/techniques.php?cat=general&page=metering
จากภาพที่นำมาเป็นตัวอย่างนี้ (เก็บเรื่องโฟกัสไว้ก่อน) เขาทดสอบวัดแสง 3 จุดด้วยกันตามวงกลมในภาพ และผลที่ได้ออกมาก็ตามนั้น ภาพบนสุดวัดแสงตรงจุดก้ำกึ่งระหว่าง "สว่างน้อยกับมืด" ภาพกลางวัดตรงจุดที่ "สว่างมากกับมืด" ภาพล่างสุดวัดตรง "จุดที่มืดที่สุด"

ถ้าเราวัดแสงตรงจุดที่มืดที่สุดของภาพ (ภาพล่างสุด) กล้องมันจะพยายามปรับค่า F และ S ให้จุดตำแหน่งที่เราวัดแสดงไว้ ออกมาให้มีความสว่างพอดี ไม่แคร์ว่าภาพโดยรวมมันจะโอเวอร์ เลยทำให้ภาพดูซีดจางไปสำหรับภาพแนวนี้

ถ้าวัดแสงตรงจุดที่สว่างที่สุด(ภาพกลาง) เราก็จะได้ภาพโดยรวมที่มืดลง เพราะตรงนั้นมันสว่างอยู่แล้ว กล้องจึงปรับ F และ S ให้เร็วและแคบลงมา ภาพบนจึงดูดีที่สุดแล้ว สำหรับภาพในลักษณะแบบนี้

เมื่อเราแตะปุ่มชัดเตอร์นิดนึง ให้กล้องมันทำงาน ระบบวัดแสงจะทำงานทันที ไม่ว่าคุณจะส่ายกล้องไปในทิศทางใด มันก็จะวัดแสงไปเรื่อยเปื่อยของมัน เมื่อได้ตำแหน่งที่คุณต้องการจะวัดแสงแล้วก็ล็อคความจำแสงเอาไว้ ถ้าเป็น Canon จะเป็นปุ่ม *  ทีนี้คุณก็สามารถจัดวางภาพได้ตามใจชอบ โฟกัสไปที่วัตถุที่คุณต้องการแล้วก็กดชัดเตอร์ลงไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น